ขั้นตอนการซื้อขาย

       1. เปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์กับบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์

       2. วางเงินหลักประกันก่อนส่งคำสั่งซื้อหรือขาย

       3. การส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพื่อเปิดสถานะการลงทุน (Open Position) สามารถส่งคำสั่งได้ 2 ทางคือ

          3.1 ส่งคำสั่งผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด

          3.2 ส่งคำสั่งด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ต

       4. ตรวจสอบหลักประกันให้เป็นไปตามข้อกำหนด จะมีการคำนวณระดับหลักประกันของลูกค้าที่วางไว้ทุกสิ้นวันทำการ จากกระบวนการ Mark to Market โดยเปรียบเทียบหลักประกัน กับระดับหลักประกันขั้นต้น (IM) และหลักประกันรักษาสภาพ (MM) หากต่ำกว่าระดับ MM ลูกค้าจะต้องนำเงินมาวางให้เท่ากับระดับ IM ตามระเบียบของบริษัท

       5. การปิดสถานะการลงทุน (Close Position) ส่งคำสั่งซื้อหรือขายเพื่อปิดฐานะการลงทุนก่อนสัญญาครบกำหนดอายุ (Offset) ในทิศทางตรงข้ามกับที่ได้ทำการเปิดสถานะไว้ หากถือสัญญาจนครบกำหนดโดยระบบจะทำการปิดสถานะให้อัตโนมัติ (Auto Close)ในวันทำการสุดท้ายของการซื้อขาย

       6. การถอนเงินหลักประกัน (Cash Balance Withdrawal) ลูกค้าสามารถถอนหลักประกันได้จำนวนเงินเท่ากับ 100% ของ Excess Equity สิ้นสุดในวันนั้นที่คำนวณได้

       หมายเหตุ: ลูกค้าจะต้องทำรายการถอนเงินล่วงหน้าก่อน 1 วันทำการ โดยลูกค้าจะได้รับเงินในช่วง 14:00น. ของวันทำการถัดไป

             สิ่งที่ควรระวังในการซื้อขาย

       หลังการวางแผนการซื้อขายแล้ว ผู้ลงทุนยังจะต้องตัดสินใจว่าจะซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สหรือออปชั่นสัญญาใด เท่าใด และลงทุนเมื่อใด ปัจจัยต่างๆ ที่ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงในการซื้อขาย มีดังนี้

       1. สภาพคล่องของสัญญา

       ฟิวเจอร์สและออปชั่นที่มีเดือนส่งมอบต่างๆกันจะมีสภาพคล่องต่างกัน ปัจจัยที่ควรคำนึงในการเลือกสัญญา คือ ตามปกติสัญญาที่ใกล้ถึงวันส่งมอบ (nearby contract) จะมีสภาพคล่องสูงที่สุด ส่วนสัญญาที่มีวันส่งมอบไกลออกไปก็จะมีสภาพคล่องน้อยลงตามลำดับ สภาพคล่องอาจจะส่งผลกระทบต่อราคา และความยากง่ายในการปิดฐานะในสัญญาด้วย

       2. ขนาดของการลงทุน

       ขนาด ของการลงทุนมีผลโดยตรงต่อขนาดของกำไรขาดทุนในอนาคต รวมทั้งขนาดของเงินที่ต้องเตรียมไว้เผื่อถูกเรียกให้วางหลักประกันเพิ่ม ผู้ลงทุนต้องตัดสินใจว่าขนาดของการขาดทุนที่รับได้เป็นเท่าไร ซึ่งจะสอดคล้องกับขนาดของการลงทุนที่เหมาะสมของผู้ลงทุนแต่ละคน